OWNDAYS MEETS vol. 02 Shinomiya Yoheiอดีตนักกีฬารักบี้

แขกรับเชิญคนที่ 2 ของ OWNDAYS MEETS คือ Yohei Shinomiya อดีตนักกีฬารักบี้อาชีพที่เคยเข้าไปเล่นในทีมชั้นนำมาแล้วทั่วโลก เขาได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเส้นทางชีวิตของตัวเอง รวมทั้งการทุ่มเททั้งชีวิตให้กับการเล่นรักบี้ในระดับโลกและการวางเป้าหมายสูงขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งเส้นทางในอนาคต

Shinomiya Yohei

Shinomiya Yohei

อดีตนักกีฬารักบี้

เกิดวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 1978 ในเมืองคาวาซากิ จังหวัดคานากาวา เริ่มเล่นรักบี้ตอนเรียนปีหนึ่งในโรงเรียนมัธยมโทอินกักคุเอ็น สมัยอยู่ปีมัธยมปลายปีสาม เขาพาโรงเรียนมัธยมโทอินกักคุเอ็นเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรกในการแข่งขันกีฬารักบี้ระหว่างโรงเรียนมัธยมระดับประเทศที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ สนามรักบี้คินเตะทสึฮานาโซโนะ
เป็นตัวจริงของทีมมหาวิทยาลัยคันโตกักคุอินตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง และกลายเป็นแรงผลักดันให้ทีมคว้าแชมป์รักบี้มหาวิทยาลัยถึงสามครั้งตลอดสี่ปีที่เรียนในมหาวิทยาลัย
ทำงานกับบริษัทยามาฮ่ามอเตอร์หลังเรียนจบ และเดินทางไปศึกษาต่อด้านรักบี้ในนิวซีแลนด์ขณะทำงานให้กับยามาฮ่า
ในปี 2005 เขากลายเป็นนักรักบี้ญี่ปุ่นคนแรกที่ได้เซ็นสัญญากับสโมสรอาชีพในแอฟริกาใต้ ก่อนจะไปเล่นให้กับสโมสรอาชีพในนิวซีแลนด์ อิตาลี และฝรั่งเศส และประกาศเกษียณตัวเองเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2013
ปัจจุบัน Yohei เป็นโค้ชและผู้จัดการทั่วไปของทีมรักบี้หญิง “PHOENIX” นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาวงการรักบี้ในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งเปิดสถาบันนานาชาติหลายแห่งเพื่อช่วยฝึกนักกีฬารักบี้รุ่นต่อไปที่มีศักยภาพเข้าไปเล่นรักบี้บนเวทีโลก

คุณประกาศเลิกเล่นรักบี้เมื่อสิ้นปีที่แล้ว ก่อนอื่น เราขออนุญาตกล่าวแสดงความยินดีกับการประสบความสำเร็จอย่างงดงามในฐานะนักกีฬารักบี้อาชีพ

ขอบคุณครับ
ผมเองก็อยากเล่นรักบี้ให้นานที่สุดนะ แต่ผมมองว่าอายุ 35 นี่เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต ผมบาดเจ็บที่หัวเข่าและพยายามฝึกซ้อมหลังผ่าตัดมาโดยตลอด แต่ก็ต้องตัดสินใจเกษียณเพราะรู้ตัวว่าไม่สามารถกลับไปเล่นได้อย่างเต็มที่ 100% อย่างที่หวังเอาไว้

หลังผ่าตัด ผมเคยมาวิ่งคนเดียวในสวนตรงสนามนี้ โดยหวังว่าจะกลับมาเล่นอีกครั้ง ตอนนั้น ผมก็แค่เชื่อมั่นในตัวเองและวิ่งไปเรื่อย ๆ ปล่อยให้ความคิดมากมายแล่นอยู่ในหัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่หวังเอาไว้ว่าจะฟื้นตัวและกลับมาได้อีกครั้ง ความกังวล สิ่งที่ผมรับไม่ได้ อะไรต่าง ๆ นานา บางครั้งผมก็หงุดหงิดนะครับ เพราะหลังจากบาดเจ็บ ผมก็ไม่แข็งแรงเหมือนเดิม แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็รู้สึกว่าช่วงเวลาแต่ละปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้เป็นการแข่งขัน และผมก็คิดว่าตัวเองจบการแข่งขันเหล่านั้นด้วยชัยชนะ

คุณเล่นรักบี้อาชีพมานาน แต่คุณเริ่มทำอาชีพนี้ได้ยังไง

ทุกอย่างเริ่มต้นตอนผมเข้าชมรมรักบี้สมัยมอต้นครับ ผมเข้าชมรมรักบี้ของโรงเรียนมัธยมโทอินกักคุเอ็นในจังหวัดคานากาวา เพื่อนสนิทคนหนึ่งชวนผมไปดูพวกเขาซ้อม จริง ๆ แล้วมันก็เป็นแรงบันดาลใจธรรมดา ๆ นะ แต่ครั้งแรกที่ผมได้จับลูกรักบี้ ผมรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่พิเศษ หลังจากนั้นผมก็ชอบรักบี้ขึ้นเรื่อย ๆ เพราะพบว่ามันน่าสนใจ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้นะครับ

ทำไมคุณถึงชอบรักบี้

ตอนนั้น ผมเล่นเบสบอลและฟุตบอลอยู่ แต่รักบี้เป็นกีฬาปะทะที่คุณต้องเข้าไปใกล้ชิดกับคนอื่นจริง ๆ แน่นอนครับ เหตุผลที่ผมชอบกีฬารักบี้ก็เพราะมันเป็นกีฬาปะทะ ผมชอบวิ่งเข้าไปชนคนอื่น วิ่งผ่านคนอื่น ไล่ตามคนอื่น แล้ววิ่งหนีคนอื่น
พอผมอยู่มัธยมต้นปีสาม ผมก็ตัดสินใจเลยว่าผมจะเดินบนเส้นทางสายรักบี้นี่แหละ

มันเป็นกีฬาที่ต้องฝึกซ้อมอย่างหนักและได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อย ๆ ด้วยใช่ไหม

การฝึกซ้อมที่ทรหดที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาคือสมัยมัธยมปลายครับ มันหนักมากจริง ๆ [หัวเราะ]
แต่ผมตัดสินใจไปแล้ว ดังนั้น แทนที่ผมจะพยายามฝึกซ้อมแบบทรหดให้มันพ้น ๆ ไป ผมก็หันมาพยายามใช้ความคิดและก็สนุกกับมันจริง ๆ ผมผ่านมาได้เพราะผมรักกีฬารักบี้กว่าอะไรอย่างอื่นทั้งหมด
ผมยังจำเรื่องราวน่าประทับใจสมัยอยู่มอปลายปีสามได้เลยนะ มันเป็นตอนที่พวกเราสามารถชนะคู่แข่งในการแข่งขันกีฬารักบี้ระหว่างโรงเรียนมัธยมระดับประเทศ ซึ่งจัดขึ้นที่สนามรักบี้คินเตะทสึฮานาโซโนะ

"โลกคือเวที เส้นทางแห่งความท้าทาย"

คุณเคยได้แชมป์สามครั้งสมัยอยู่มหาวิทยาลัย จากนั้นจึงไปเล่นในต่างประเทศด้วย

มันก็เหมือนกับสมัยมัธยมแหละ แต่ในมหาลัย ผมโชคดีที่เพื่อนร่วมทีมเล่นเก่งกว่าผม ผมก็เลยได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ตัวเองเติบโตขึ้นได้ ผมรู้เรื่องการเล่นรักบี้ในต่างประเทศตอนเราฝึกซ้อมกับโค้ชชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นคนที่เคยวางทรัยและทำคะแนนได้มากที่สุดในการแข่งเวิร์ลด์คัพ
ในตอนนั้น แม้แต่นักเบสบอลกับนักฟุตบอลญี่ปุ่นก็เริ่มมองหาลู่ทางไปเล่นให้กับสโมสรดัง ๆ นอกญี่ปุ่นกัน ซึ่งผมก็เริ่มคิดว่า ผมเองก็อยากไปเล่นในทีมชั้นนำของโลกของเหมือนกันนะ เริ่มต้น ผมก็เลยตั้งเป้าไว้ว่าผมจะเป็นปีกที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นให้ได้ จากนั้นชีวิตมหาลัยของผมก็หมกมุ่นอยู่กับรักบี้นี่แหละครับ

พอเรียนจบ ผมเดินทางไปนิวซีแลนด์ตั้งแต่ปีแรกที่เริ่มทำงาน ผมเล่นรักบี้ที่นั่นอยู่สามปีก่อนจะได้เซ็นสัญญาเล่นรักบี้อาชีพในแอฟริกาใต้ แต่ในตอนนั้น ผมรู้สึกว่าเจออุปสรรคหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องการสื่อสารและความยากลำบากในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม

ผมลงเล่นในสนามได้ แต่ระดับการเล่นที่นั่นสูงมาก ทั้งในด้านกายภาพและด้านอื่น ๆ มีหลายครั้งที่ผมไม่สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างใจ แต่ผมก็ตัดสินใจว่าจะไม่กลับญี่ปุ่นจนกว่าจะประสบความสำเร็จ ซึ่งผมก็บอกกับตัวเองให้มองว่าอุปสรรคเหล่านี้เป็นการทดสอบที่ผมต้องเอาชนะให้ได้ ถึงสุดท้ายผมจะได้รับบาดเจ็บที่เข่า แต่ผมก็ได้เล่นรักบี้ในลีกอาชีพของแอฟริกาใต้ นิวซีแลนด์ ยุโรป รวมถึงอิตาลีและฝรั่งเศส ถึง 12 ฤดูกาล

หลังจากเกษียณตัวเองจากการเล่นอาชีพแล้ว คุณจะเลือกเดินไปบนเส้นทางไหนในอนาคต

ผมอยากฝึกและสนับสนุนเด็กรุ่นหลังที่อยากไปเล่นรักบี้ทั่วโลก รวมทั้งอยากทำให้กีฬารักบี้เป็นที่นิยมมากขึ้นด้วย ถึงแม้ว่าผมจะเกษียณแล้ว แต่ผมก็อยากรับใช้วงการรักบี้ด้วยการทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมญี่ปุ่นกับประเทศต่าง ๆ
ตอนนี้ ผมเป็นโค้ชและผู้จัดการทั่วไปของทีมรักบี้หญิง “PHOENIX” ผมอยากทำงานนี้ให้ดีที่สุดเพื่อสร้างทีมรักบี้ที่แฟน ๆ รัก และกลายเป็นทีมที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ผมอยากตอบแทนวงการรักบี้ที่ให้อะไรกับผมมากมาย ผมไม่ได้เล่นอาชีพอีกต่อไปแล้ว แต่ผมก็จะทุ่มเททำงานต่อไปสัมภาษณ์: ธันวาคม 2013

Guest Select Senichisaku

  • Senichisaku/SENICHI3

ผมมักจะสวมแว่นตาเป็นเครื่องประดับแฟชั่น ที่จริงแล้ว ผมสวมแว่นตา OWN DAYS มานานแล้วนะครับ แว่นตา OWN DAYS ออกแบบมาเหมาะกับโครงสร้างกระดูกของคนญี่ปุ่น ซึ่งผมพบว่ามันใส่สบายมาก ผมชอบกรอบแว่นที่เลือกไว้ เพราะผมเป็นแฟนตัวยงของเครื่องประดับลายพรางเลย ผมลองสวมแว่นตาหลายอันมาก แต่เลือกอันนี้เพราะมันเหมาะกับผมที่สุดแล้ว

P/No.
SENICHI3
Colour
C5 Gray Demi
TOP

TOP