OWNDAYS MEETS vol. 06 Ryu Koshinoอดีตนักแสดงของ Takarazuka Revue

แขกรับเชิญคนที่ 6 ของ OWNDAYS MEETS คือ Ryu Koshino อดีตนักแสดงหญิงที่แฟน ๆ หลงรักของคณะละครเวทีหญิงล้วน ผู้เคยเป็นดาวเด่นของ Moon Troupe และเคยรับบทผู้ชายมาแล้ว เธอลาออกจาก Takarazuka Revue เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2013 ดังนั้น เราจึงขอสัมภาษณ์บุคคลที่ได้รับฉายา “Takarasienne” เพื่อขอให้เธอบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางในอดีตที่ผ่านมาและเส้นทางชีวิตที่เธอจะเลือกเดินในอนาคต

Ryu Koshino

Ryu Koshino

อดีตนักแสดงของ Takarazuka Revue

อดีตนักแสดงของคณะละคร Takarazuka Revue เล่นบทผู้ชาย โดยเป็นดาวเด่นของกลุ่ม Moon Troupe
1993 เข้าร่วมกับคณะละครเวที Takarazuka Revue ในฤดูกาลที่ 79 โดยรับบทผู้ชาย และขึ้นเวทีครั้งแรกในสังกัด Moon Troupe จากการแสดงเรื่อง “Broadway Boys”
1994 ได้รับมอบหมายให้อยู่ใน Moon Troupe (ตลอดการทำงานจนเกษียณ)
1999 ได้รับเลือกให้ไปแสดงในปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้
2008 กลายหัวหน้าคณะที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Takarazuka Revue เมื่ออายุ 35 ปี โดยรับตำแหน่งต่อจาก Aya Izumo ที่เกษียณอายุไป
เป็นหัวหน้านักแสดง 80 คนใน Moon Troupe และจัดแสดงโชว์ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย
ตุลาคม 2013: เกษียณตัวเองออกจาก Takarazuka Revue หลังการแสดงครั้งสุดท้ายในกรุงโตเกียว และเริ่มต้นเส้นทางของตัวเองในฐานะของ Ryu Koshino
มีนาคม 2014: ร้องเพลงชาติญี่ปุ่นและสวิตเซอร์แลนด์แบบโซโล่ในพิธีเปิดงานฉลองครบรอบ 150 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต
เมษายน 2014: ร้องเพลงชาติญี่ปุ่นแบบโซโล่ในรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขัน Volleyball Premier League

คุณเดินออกมาจาก Takarazuka Revue เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ถ้ามองย้อนกลับไป ที่นั่นคือสถานที่แบบไหนสำหรับคุณ

ค่ะ ในการออดิชันเป็นนักแสดงเรื่องโรมิโอแอนด์จูเลียตในปี 2012 ฉันได้บทเป็นลอร์ดคาปูเล็ต ที่อยากเล่นมาตลอด การทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างในการแสดงบทนี้ ทำให้ฉันพอใจกับตัวเองอย่างมาก และรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่จะส่งบทนี้ให้กับคนรุ่นต่อไป

Takarazuka มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทั้งแฟน ๆ นักแสดง และทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องบนเวที มันเหมือนกับความอบอุ่นในครอบครัวนะ ฉันว่า ดังนั้น ทุกครั้งที่ขึ้นไปอยู่บนเวที ฉันก็จะรู้สึกแบบนั้น ทำให้ฉันมีความสุขมาก
Takarazuka Revue ฉลองครบรอบหนึ่งร้อยปีไปเมื่อปีที่แล้ว พิธีฉลองที่ฉันไปร่วมงานเมื่อวันก่อนตอกย้ำกับฉันว่า สภาพแวดล้อมที่ฉันเคยอยู่นั้นวิเศษแค่ไหน

คุณมาร่วมงานกับ Takarazuka ได้อย่างไร

ฉันเกิดที่นีงาตะและเริ่มเรียนบัลเลต์มาตั้งแต่เด็ก ครูแนะนำฉันให้ไปที่ Takarazuka ฉันก็เลยได้ไปเข้าร่วมกับที่นั่น แต่ว่าในตอนนั้น ฉันรู้สึกว่าฉันแค่ชอบเต้นอย่างเดียว อีกอย่างหนึ่ง ฉันพูดต่อหน้าคนอื่นไม่เก่ง ฉันก็เลยไม่กระตือรือร้นที่จะเข้า Takarazuka เท่าไหร่นัก
แต่เพราะช่วงนั้นฉันเริ่มคิดแล้วว่าฉันขาดในสิ่งที่จะทำให้ตัวเองสามารถเต้นบัลเลต์ได้ตลอดชีวิต ก็เลยตั้งคำถามกับตัวเองว่าฉันควรทำอะไรในอนาคตดี ดังนั้น พอได้ยินเรื่องของ Takarazuka ฉันก็ตัดสินใจเข้าไปสอบ
ฉันเริ่มไปเรียนร้องเพลงเพื่อฝึกทักษะที่จำเป็นสำหรับการสอบ แต่ครูบอกฉันว่า ฉันไม่มีแรงจูงใจเอาซะเลย มีคนบอกฉันว่า ฉันไม่มีทางผ่านการทดสอบหรอกถ้ายังมีทัศนคติแบบนี้ ซึ่งมันทำให้ฉันตั้งใจว่าฉันต้องเริ่มพยายามจริง ๆ จัง ๆ เสียที โชคทีที่ฉันสอบผ่านจนได้

คุณได้เรียนรู้อะไรจากโรงเรียนการดนตรี Takarazuka บ้าง

ที่โรงเรียนการดนตรี เราฝึกซ้อมกันตลอดวันตั้งแต่เช้าจนเย็นเพื่อเตรียมตัวขึ้นเวที
เราเน้นเรียนบัลเลต์ การเต้น การเต้นรำแบบญี่ปุ่น การละเล่น การขับร้อง พิธีชงชา เปียโน และเครื่องดนตรีดั้งเดิมของญี่ปุ่นอย่างโคโตะและซามิเซ็งกันอย่างเดียวเลย
ตามหลักของกิริยามารยาทแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น การเคลื่อนไหวของคุณจะต้องสง่างามจึงจะขึ้นเวทีได้ ดังนั้น เราจะต้องเรียนหลักการเบื้องต้นที่จำเป็นสำหรับการแสดงกันก่อน
ฉันมักจะได้ยินคนพูดว่า วงการนี้ต้องอยู่ยากแน่ ๆ แต่ฉันเตรียมใจไว้อยู่แล้วและพยายามสนุกกับมันเพื่อให้สามารถสนุกกับการทำงานที่ตัวเองรักได้ สำหรับฉันแล้ว ถือว่าเป็นโชคดีนะคะ เพราะฉันไม่ต้อง "ขยันเรียนอย่างเอาเป็นเอาตาย" หรือเขียนจดอะไรแบบนั้น [หัวเราะ]

คุณเล่นบทผู้ชายที่ Takarazuka แถมยังได้เป็นดาวเด่นของ Moon Troupe ด้วย

ใช่ค่ะ ฉันดีใจมากที่ได้เล่นบทผู้ชาย
การได้เล่นบทผู้ชายบนเวทีท่ามกลางผู้หญิงคงมีแต่ Takarazuka เท่านั้นละค่ะที่ทำได้ ฉันหมายความว่า ทุกอย่างมันลงตัวไปหมดเพราะเอกลักษณ์ของ Takarazuka ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายหรือการแต่งหน้า ดังนั้น ตอนที่ฉันแสดง มันจึงเป็นความรู้สึกที่พิเศษจริง ๆ

ตอนที่ฉันเป็นดาวเด่นอยู่ในคณะละคร ดารารุ่นพี่ที่เก่ง ๆ รวมทั้งผู้คนที่ให้ความรู้แก่ฉัน ล้วนแต่มีประสบการณ์กันหลายปีทั้งนั้น ซึ่งฉันไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะได้เป็นหนึ่งในนั้นด้วย มันทำให้ฉันลังเลในตอนแรกค่ะ แต่โค้ชสอนการแสดงของฉันบอกว่า ฉันควรจะวิ่งเข้าไปหามันให้เหมือนกับว่าฉันเป็นกัปตันชมรมวอลเลย์บอลของโรงเรียน ซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นค่ะ
ฉันรู้สึกว่าตัวเองได้เล่นบทนี้ก็เพราะความช่วยเหลือจากทุกคนที่อยู่รอบตัว

มีการแสดงไหนบ้างที่มีความหมายต่อคุณเป็นพิเศษ

ฉันรักการแสดงทุกชุดนะคะ แต่การแสดงครั้งแรกของฉัน ซึ่งเป็นการแสดงร่วมกับนักแสดงอีก 40 คน ที่เข้าคณะละครมาพร้อมกัน เป็นหนึ่งในความทรงจำที่พิเศษที่สุดของฉันเลยละค่ะ
การแสดงครั้งแรกในตอนนั้นเป็นการแสดงเพียงครั้งเดียวที่นักแสดงทุกคนที่เข้าคณะละครมาพร้อมกันได้แสดงร่วมกันบนเวที ฉันจำได้แม่นเพราะฉันได้ขึ้นแสดงร่วมกับเพื่อน ๆ ที่ใช้ชีวิต ฝึกซ้อม ผ่านความยากลำบาก และร้องไห้มาด้วยกันตลอดระยะเวลาสองปีในโรงเรียนการดนตรี
ฉันไม่เคยลืมความรู้สึกตอนขึ้นเวทีเป็นครั้งแรกเลยและจะไม่มีวันลืมความตื่นเต้นตอนที่ได้ทราบว่าตัวเองจะได้ขึ้นแสดงบนเวทีใหญ่ในทุก ๆ วันด้วย

"เริ่มต้นการเดินทางบนถนนสายใหม่"

คุณคิดว่าจะท้าทายตัวเองอย่างไรในอนาคต

ตอนนี้ ฉันเริ่มจากศูนย์จริง ๆ ค่ะ ฉันออกจาก Takarazuka มาแล้วครึ่งปี หลังจากใช้ชีวิตอยู่ในนั้นมา 21 ปีด้วยกัน ตอนแรกฉันก็กระตือรือร้นกับการตามหาตัวเองอยู่หรอกนะคะ แต่พอผ่านไปสามวัน ฉันก็เริ่มกังขาว่าอนาคตของฉันจะเป็นยังไงเนี่ย [หัวเราะ]

ฉันไม่เคยรู้เลยว่าโลกนอก Takarazuka เป็นยังไงบ้าง ฉันลำบากมาก ๆ เลยละค่ะ เพราะฉันไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรฉันถึงจะหาเลี้ยงตัวเองได้ แต่คนรอบข้างต่างก็เข้ามาเสนอความช่วยเหลือ ซึ่งฉันก็รับความช่วยเหลือเหล่านั้นด้วยความยินดี และเส้นทางตรงหน้าฉันก็เปิดออกทีละน้อย
ตอนนี้ผ่านมาครึ่งปีแล้ว แต่ฉันก็รู้สึกว่ามันผ่านมาแค่ครึ่งปีเองนะ เพราะแต่ละวันและทุก ๆ วัน เต็มไปด้วยแรงกระตุ้น และฉันก็ได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่างเลยละค่ะ

ปีนี้จะเป็นปีแห่งการลองทำอะไรใหม่ ๆ แล้วดูว่ามันไปได้สวยแค่ไหน ครั้งหนึ่ง สมัยอยู่ในคณะละคร Takarazuka ฉันมีโอกาสได้ทำงานพากษ์ มันเป็นงานที่ท้าทายกว่าที่คิด ฉันก็เลยสนใจมันขึ้นมาจริง ๆ
ฉันสนใจเรื่องการสื่อความรู้สึกต่าง ๆ โดยใช้เฉพาะคำพูด และตัดสินใจว่าอยากจะท้าทายตัวเองในด้านนี้ดู ความฝันของฉันคือ การสื่อความรู้สึกถึงผู้คนโดยใช้เสียงของตัวเองเพียงอย่างเดียว หรือก็คือการทำงานโดยใช้เสียงของตัวเองค่ะสัมภาษณ์: เมษายน 2014

Guest Select Graph Belle

  • Graph Belle/OE1333

แว่นตาทำให้ดูเป็นคนฉลาด ใช่ไหมคะ ปกติแล้ว ฉันมักจะสวมแว่นตาสีดำหรือสีน้ำตาล แต่เพราะฉันอยากจะแสดงให้คนอื่นเห็นว่าฉันเป็นคนใหม่แล้ว ครั้งนี้ ฉันก็เลยสวมแว่นสีแดง ฉันไม่เคยสวมแว่นตาที่มีกรอบแว่นบางหรืออะไรแบบนั้นมาก่อนแล้ว แต่แว่นพวกนี้เบาแล้วก็ใส่สบายจริง ๆ ที่จริงฉันมักจะสวมแว่นกรอบตาที่ดูเป็นผู้ชายหน่อย ๆ ดังนั้น ฉันก็อยากลองสวมแว่นที่บอบบางอ่อนหวานมากขึ้น ซึ่งก็ดีจริง ๆ นะคะ นอกจากนี้ การได้เปลี่ยนสีและดีไซน์ของกรอบแว่นตามอารมณ์ความรู้สึกเป็นอะไรที่ดีมากเลยค่ะ

รหัสสินค้า
OE1333
สี
C3 Matte Red
TOP

TOP