2022.11.28 | HOW TO

เลือกเลนส์อย่างไรให้ปัง! ความลับที่ร้านแว่นไม่เคยบอกคุณ

หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า Index แต่เคยสงสัยหรือไม่ว่าคืออะไร? Index เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญในการเลือกเลนส์ให้เหมาะสมกับแว่นตาของเรา ในบทความนี้จะมาพูดถึงความหมายของ Index ความสัมพันธ์ของแว่นตากับ Index และลักษณะของเลนส์แต่ละแบบ จะมีอะไรบ้างมาดูไปพร้อมกันเลย

Index คืออะไร?

Index คือ ดัชนีหักเหของแสงของเลนส์ เมื่อแสงเดินทางผ่านอากาศมาถึงเลนส์ จะเกิดการหักเหของแสงเข้าสู่ดวงตา ทำให้เรามองเห็นภาพได้อย่างชัดเจน ระดับการหักเหแสงจะแสดงเป็นตัวเลขที่เรียกว่า "Index" เลนส์ที่มี Index สูงจะหักเหแสงเข้าสู่ดวงตาได้ดีกว่าเลนส์ที่มี Index ต่ำ เช่น เลนส์ที่มี Index 1.74 จะหักเหแสงได้ดีกว่าเลนส์ที่มี Index 1.50

แว่นตากับ Index สัมพันธ์กันอย่างไร?

หากเป็นเลนส์ที่มีค่าสายตาเดียวกัน เลนส์ Index สูงจะมีความบางมากกว่าเลนส์ Index ต่ำ ดังนั้น ยิ่ง Index สูงขึ้น เลนส์ก็จะยิ่งบางลง โดยค่า Index ของเลนส์พลาสติกในร้านแว่นตาทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 1.50 ถึง 1.74

ดัชนีหักเหแสง

หนา

บาง

ยิ่งเลนส์บางเท่าไหร่ น้ําหนักของแว่นและความผิดเพี้ยนในการมองเห็นก็จะน้อยลงเท่านั้น

เลนส์ชั้นเดียวและเลนส์โปรเกรสซีฟ

เลนส์แว่นตาแบ่งออกได้สองแบบ ได้แก่ เลนส์ชั้นเดียว (Single Vision) และเลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive) เลนส์ชั้นเดียว จะสามารถมองใกล้หรือไกลได้เพียง 1 ระยะ ใช้สำหรับแก้ไขปัญหาสายตาสั้นและสายตายาว

ส่วนเลนส์โปรเกรสซีฟ จะเป็นเลนส์ที่มีค่าสายตาหลายระยะ สามารถมองจากระยะไกลถึงระยะใกล้ได้ในเลนส์ชิ้นเดียว จึงสามารถแก้ไขปัญหาสายตาได้หลายแบบ ส่วนสำหรับมองระยะไกลจะอยู่ด้านบนของเลนส์และส่วนสำหรับมองระยะใกล้จะอยู่ด้านล่าง เลนส์นี้จึงช่วยลดความยุ่งยากในการสวมและถอดแว่น และเมื่อมองจากภายนอกแล้วจะไม่เห็นความต่างจากเลนส์ชั้นเดียว เหมาะกับคนที่รู้สึกอายเวลาต้องสวมแว่นอ่านหนังสือ

  • เลนส์ชั้นเดียว
    (ใช้มองไกล/มองใกล้)

    มีค่าสายตาเท่ากันทั่วทั้งเลนส์

  • เลนส์โปรเกรสซีฟ
    (ใช้มองระยะไกล/มองระยะใกล้/มองระยะกลาง)

    ส่วนบนและส่วนล่างของเลนส์มีค่าสายตาแตกต่างกัน

ประเภทของเลนส์

เลนส์ยังสามารถแบ่งได้อีก 2 ประเภท ดังนี้

ประเภทที่ 1 : เลนส์โค้งปกติ (Spherical Lens)

เลนส์โค้งปกติ เป็นเลนส์แบบดั้งเดิม ราคาถูก สามารถมองเห็นความโค้งของเลนส์ได้จากด้านข้าง เลนส์ชนิดนี้มีข้อเสียคือมีความบิดเบือนที่บริเวณขอบเลนส์ ทำให้ภาพบริเวณขอบเลนส์ดูไม่เป็นธรรมชาติและเมื่อมองจากภายนอกดวงตาจะดูเล็กลง

ทั้งนี้ หากเลือกใช้กรอบแว่นขนาดเล็กลงก็จะช่วยตัดขอบเลนส์ที่บิดเบือนออกไปได้ ดังนั้นเมื่อต้องการตัดแว่นที่เป็นเลนส์นี้ ควรเลือกกรอบแว่นให้มีขนาดเหมาะสม ไม่เลือกกรอบใหญ่จนเกินไป

ประเภทที่ 2 : เลนส์โค้งแบนด้านเดียว (Aspherical Lens)

เลนส์โค้งแบนด้านเดียว จะมีความบิดเบือนที่ขอบเลนส์จะน้อยกว่าเลนส์โค้งปกติ มีความบางและเบา ปัจจุบันเลนส์ชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่ร้านแว่นตาบางแห่งยังคงคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับเลนส์ชนิดนี้เพราะถือว่าเป็นเลนส์เสริมและมีราคาสูงกว่าเลนส์โค้งปกติ

ข้อเสียของเลนส์ Index สูง

หลายคนอาจจะคิดว่ายิ่งเลนส์มี Index สูงยิ่งดี แต่จริงๆ แล้วก็มีข้อเสียเช่นกัน

- ยิ่ง Index สูง ตัวเลนส์จะยิ่งหนัก และอาจทำให้รู้สึกเมื่อยล้าเมื่อสวมใส่แว่นเป็นระยะเวลานาน
- อาจมองเห็นสีรุ้ง เนื่องจากแสงประกอบไปด้วยแสงสีต่างๆ เมื่อแสงทั้งหมดเดินทางถึงตาพร้อมกัน เราก็จะมองเห็นสีแต่ละสีได้ชัดเจน แต่เมื่อแสงเดินทางผ่านเลนส์ Index สูง ความเร็วในการหักเหแสงจะลดลงทำให้สีแต่ละสีแยกออกจากกันก่อนเดินทางถึงตาจึงอาจมองเห็นสีรุ้งได้ ส่งผลให้การมองเห็นไม่ชัดเจนและเกิดอาการตาพร่า

เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกเลนส์ที่มี Index เหมาะสมกับค่าสายตาและการใช้งานของตัวเอง หากมีค่าสายตาน้อย แม้ว่าจะเป็นเลนส์ Index ต่ำ ก็ไม่ได้ทำให้เลนส์หนาขึ้น หากเลนส์บางเกินไปก็อาจเกิดปัญหาเวลาใส่เลนส์กับกรอบบางชนิด เช่น แว่นตาไร้กรอบ เพราะอาจทำให้เลนส์แตกขณะเจาะรูใส่ขาแว่นและสะพานแว่น เป็นต้น

มาทำความเข้าใจลักษณะของเลนส์ และเลือกเลนส์ให้ปังกันเถอะ!

การเพิ่ม Index ให้สูงขึ้นช่วยให้เลนส์บางลงก็จริง แต่สิ่งสำคัญควรเลือกเลนส์ที่มี Index ที่เหมาะสมกับสายตาของตัวเอง ที่ OWNDAYS เรามีเลนส์หลากหลายแบบให้เลือกและไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับเลนส์โค้งแบนดัชนีหักเหแสงสูง

กลับไปยังบทความทั้งหมด
TOP

TOP